ภูมิภาคเหนือ (ฮอกไกโด)

ฮอกไกโด (Hokkaido)
     เป็นเกาะใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่น ถือเป็นสวรรค์ของธรรมชาติซึ่งสามารถจะท่องเที่ยวได้ตลอดปีมีทั้งภูเขา ที่ราบสูง แม่น้ำ ทะเลสาบ บ่อน้ำพุร้อน และชายฝั่งทะเล มีเมืองซัปโปโรเป็นศูนย์กลางทางด้านวัฒนธรรม เศรษฐกิจและการเมือง รวมทั้งการเดินทางไปโตเกียวและโอซาก้า เป็นเมืองที่มีการจัดวางผังได้สมบูรณ์แบบ มี สวนสาธารณะโอโดริ ซึ่งเป็นที่จัดแสดงงานเทศกาลหิมะที่มีชื่อเสียง สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกเข้ามาชมงานในเดือนกุมภาพันธ์ของทุกปี นอกจากนี้ยังมี หอนาฬิกาอันเก่าแก่ และ ที่ว่าการเมืองฮอกไกโด อีกทั้ง ย่านร้านค้าซึซึกิโน่ ซึ่งเป็นศูนย์การค้าและแหล่งจับจ่ายซื้อของที่มีชื่อเสียงของเมืองนี้ สภาพภูมิอากาศส่วนใหญ่ค่อนข้างหนาว แต่ฤดูร้่อนจะเย็นสบายเนื่องจากจะไม่ร้อนชื้นเหมือนกับภูมิภาคอื่นๆของญี่ปุ่น เมืองหลวงของฮอกไกโดคือซัปโปโร รองมาคือฮาโกดาเตะ ซึ่งอยู่ทางตอนใต้ และมีเมืองอาซาฮีคาว่าอยู่ตรงกลางของเกาะ อุตสาหกรรมหลักของประเทศเป็นด้านการผลิตพลังงานแสงสว่าง เบียร์ ประชากรส่วนใหญ่อยู่ในภาคการบริการ ซึ่งแม้ฮอกไกโดจะเป็นเมืองที่เน้นทางด้านเกษตรกรรมและอุตสาหกรรม แต่พื้นที่ถูกใช้ไปเพียงแค่ 1 ใน 4 ของเกาะเท่านั้น แสดงให้เห็นถึงขนาดของผลผลิตต่อขนาดพื้นที่ ที่มีค่อนข้างน้อยเมื่อเทียบกับจังหวัดอื่นๆในญี่ปุ่น




จังหวัดในฮอกไกโด

Hakodate
     เมืองนี้มีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจมากมาย ด้วยเป็นเมืองท่าที่สำคัญในสมัยอดีตทำให้มีการติดต่อกับชาวต่างชาติโดยตลอด ทำให้ในเมืองนี้เต็มไปด้วยสถาปัตยกรรมแบบตะวันตกอยู่มากมายหลายที่ ศาลาประชาคมเมืองฮาโกดาเตะ ,โบสถ์ออร์โธดอกซ์ฮาโกดาเตะ ,โบสถ์โรมันคาทอลิกโมโตมาชิ เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีป้อมรูปดาวโกเรียวคะคุ ที่ปัจจุบันได้กลายเป็นสวนสาธารณะ เมื่อมองลงมาจากหอคอยโกเรียวคะคุ จะเห็นเขตพื้นที่ของป้อมเป็นรูปดาวที่สวยงาม และอีกหนึ่งความน่าสนใจที่ไม่ควรพลาดเมื่อมาเที่ยวเมืองฮาโกดาเตะ คือจุดชมวิวบนยอดเขาฮาโกดาเตะ ที่ได้ชื่อว่าวิวในยามค่ำคืนของเมืองฮาโกดาเตะเมืองมองลงมาจากยอดเขานี้สวยมากซึ่งจุดชมวิวแห่งนี้ถือว่าเป็นจุดชมวิวที่ติดอันดับ 1 ใน 3 ของโลกเลยทีเดียว



Sapporo
     เป็นเมืองหลวงของเกาะฮอกไกโด โดยได้ชื่อว่าเป็นเมืองที่ใหญ่อันดับ 5 ของประเทศญี่ปุ่น เป็นเมืองที่ทันสมัยที่สุดบนเกาะฮอกไกโด เป็นศูนย์กลางการคมนาคมขนส่ง ศึกษา การค้า กีฬาและความบันเทิง มีสถานที่ท่องเที่ยวให้เลือกชมมากมาย ผังเมืองของซัปโปโรมีการวางแบบแปลนเป็นลักษณะตารางสี่เหลี่ยมมีถนนหนทางและทางเท้าที่กว้าง จึงดูเป็นระเบียบ โดยมีสวนโอโดริ ยาว 1.5 กิโลเมตร พาดผ่านกลางเมือง แบ่งตัวเมืองออกเป็นซีกด้านเหนือและด้านใต้




Hakodate
     เป็นเมืองใหญ่อันดับ 3 บนเกาะฮอกไกโด ตั้งอยู่ริมเชิงเขาฮาโกดาเตะ ขนาบด้วยทะเลทั้ง 2 ด้าน เมื่อมองลงมาจากยอดเขาฮาโกดาเตะ จะได้เห็นเมืองที่สวยงาม จนคนญี่ปุ่นและนักท่องเที่ยวยกให้เป็น 1 ใน 3 วิวยามค่ำคืนที่สวยสุดยอดในโลก ในปี พ.ศ. 2402 ท่าเรือฮาโกดาเตะได้เปิดเป็นท่าเรือพาณิชย์นานาชาติแห่งแรกของญี่ปุ่นพร้อมๆ กับโยโกฮามา และ นางาซากิ ซึ่งถือว่าเป็น 1 ใน 5 เมืองท่าสำหรับค้าขายกับชาวต่างชาติ ส่งผลให้อาคารบ้านเรือนได้รับอิทธิพลมาจากวัฒนธรรมทางตะวันตก รวมถึงโบสถ์คริสต์และร้านอาหารที่มีหลากหลายเชื้อชาติ




Otaru
     เป็นเมืองเล็กๆ ที่อยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของเมืองซัปโปโรห่างออกไปประมาณ 40 กิโลเมตร เป็นเมืองเล็กๆ ที่สามารถใช้เวลาหนึ่งวันเดินเทียวเล่นได้อย่างสบายๆ ในอดีตเมืองโอตารุเป็นเมืองท่าที่สำคัญเทียบเท่ากับเมืองฮาโกดาเตะ แต่จากการพัฒนาที่ช้ามากทำให้ความเจริญไปอยู่ที่ซัปโปโรเป็นส่วนใหญ่




Kushiro
     เมืองใหญ่อันดับ 4 ของเกาะฮอกไกโด ได้ชื่อว่าเป็นเมืองแห่งสายหมอก  ด้วยทำเลที่ตั้งอยู่ในที่ลุ่มชื้น โอบล้อมด้วยวป่าเขาที่อุดมสมบูรณ์ ในเขตอุทยานแห่งชาติที่ลุ่มชื้นคุชิโร และเป็นที่อยู่ของนกกระเรียนญี่ปุ่น หรือนกกระเรียนหงอนแดง เป็นนกที่ใกล้สูญพันธุ์ โดยนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่นิยมไปเที่ยวทะเลสาบอะคัง ซึ่งอยู่ในอุทยานแห่งชาติอะคัง เป็นทะเลสาบปากปล่องภูเขาไฟ รวมทั้งหมู่บ้านชนพื้นเมืองชาวไอนุ




Biei
     เป็นเมืองที่ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของอะซาฮิกาว่า เมืองไม่ใหญ่มากเป็นพื้นของเนินเขา ชาวเมืองจึงใช้เป็นพื้นที่ในการเพราะปลูกพืชพันธุ์ธัญญาหารมากมาย และมากที่สุดดูจะเป็นข้าวบาร์เลย์ที่ปลูกมาก นอกจากนี้ก็มีพืชอีกหลายชนิดปลูกสลับกันไม่ว่าจะเป็น ข้าวโพด มันฝรั่ง เมล่อน เป็นต้น พื้นที่เนินเขาที่กว้างจึงเต็มไปด้วยบรรดาพืชพันธุ์ที่ปลูกสลับกันไปมา




Kamikawa
      เมืองเล็กๆ ทางตะวันออกของอะซาฮิกาว่า มีอากาศที่หนาวเย็นตลอดทั้งปี ซึ่งนักเดินทางหาต้องการจะไปเที่ยวในบนเขาคุโรดาเกะแล้วจะต้องผ่านเข้ามาในคามิกาว่า เพื่อไปหุบเขาโซฮุนเคียวที่มีหมู่บ้านและสถานนีกระเช้าในการเดินทางขึ้นไปยังเขาคุโรดาเกะ ภายในเมืองเล็กนี้ยังมีอะไรให้เราได้เที่ยวอีกอย่างคือ ถ้ำน้ำแข็ง คามิกาว่า ไอซ์ พาวิเลียน (Kamikawa Ice Pavilion)



Asahikawa
     ตั้งอยู่ทางตะวันออกของซัปโปโร เป็นเมืองที่ใหญ่อันดับ 2 ของเกาะฮอกไกโดรองจากซัปโปโร มีอาคารบ้านเรือนย่านการค้ากระจายเป็นวงกว้าง ถึงจะไม่มีตึกสูงแต่ก็ทำให้เมืองดูกว้าง อะซาฮิกาว่า หมายถึงเมืองพระอาทิตย์ยามเช้าเหนือแม่น้ำ ซึ่งความเป็นจริงแล้วตัวเมืองอะซาฮิกาว่า มีแม่น้ำไหลผ่านตัวเมืองมากมายหลายสาย จนกลายเป็นเมืองที่มีสะพานข้ามแม่น้ำมากกว่า 740 แห่ง




สถานที่น่าเที่ยว

เมืองโอตารุ (Otaru)
     เมืองโอตารุตั้งอยู่ไม่ไกลจาก Sapporo มีคลองโอตารุที่สวยงามไหลผ่าน เนื่องจากเคยเป็นเมืองท่าที่สำคัญมาก่อน บริเวณริมคลองจึงมีโกดังเก็บสินค้าสร้างไว้มากมาย แต่ปัจจุบันได้ปรับปรุงโกดังเก่าเหล่านั้นเป็นร้านค้า ร้านกาแฟ ร้านขายของที่ระลึก รวมถึงพิพิธภัณฑ์ ทำให้บริเวณริมคลองกลายเป็นถนนสายเล็ก ๆ ที่สวยงามเหมาะกับการเดินเล่นชมวิวทิวทัศน์ริมลำธาร ความสวยงามนี้ทำให้กลายเป็นพื้นที่จัดงานเทศกาลฤดูกาลประจำปีของเมือง เทศกาลฤดูหนาว จัดขึ้นทุกปีในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ ปีนี้จัดขึ้นเป็นครั้งที่ 17 โดยใช้ชื่องานว่า Otaru Snow Light Path Festival ถือเป็นงานเทศกาลประจำเมืองที่ทุกคนต่างรอคอย เพราะทั่วเมืองโดยเฉพาะบริเวณริมคลองจะประดับประดาไปด้วยแสงไฟระยิบระยับท่ามกลางหิมะสีขาว




ทุ่งดอกไม้แห่งฟูราโนะ ฟาร์มโทมิตะ (Farm Tomita)
     ฟาร์มโทมิตะ เป็นฟาร์มลาเวนเดอร์แห่งแรกของเมืองฟูราโนะ ซึ่งตั้งอยู่ใจกลางของเกาะฮอกไกโด เดินทางมาด้วยรถไฟสาย JR มาลงที่ Nakafurano Station แล้วเดินเท้ามาอีก 20 นาทีก็จะถึงที่ตั้งของฟาร์ม ในช่วงที่มีดอกลาเวนเดอร์ระหว่างเดือนมิถุนายนถึงกลางเดือนตุลาคม พื้นที่ในฟาร์มโทมิตะถูกแบ่งออกเป็น 6 ส่วนที่สวยงามไม่แพ้กัน อย่างในส่วนแรกที่พบเมื่อก้าวเข้ามาถึงในตัวฟาร์มก็คือแปลงดอกไม้สีสันจัดจ้านปลูกสลับแถวเรียงรายกันพร้อมต้อนรับคนรักดอกไม้อยู่อย่างสวยงาม ซึ่งส่วนนี้มีชื่อเรียกว่า Hanabito Field มีทั้งดอกแคลิฟอร์เนียป๊อบปี้ ดอกไม้ประเภทดาวเรืองและอีกหลากหลายชนิด ส่วนถัดมาที่อยู่ข้างกัน คือ ส่วน Sakiwai Field ซึ่งเป็นส่วนที่เต็มไปด้วยดอกลาเวนเดอร์สีม่วงทั้งหมด ปลูกต้นลาเวนเดอร์สี่สายพันธุ์ที่ต่างแข่งกันส่งกลิ่นหอมอ่อนๆมาแตะจมูก อีกส่วนที่เป็นสีม่วงทั่วทั้งแปลงเหมือนกันและเป็นจุดเริ่มต้นของฟาร์มโทมิตะคือ Traditional Lavender Garden มีลักษณะเป็นเนินสูงสามารถเดินขึ้นไปถ่ายรูปได้ถึงด้านบน และส่วนที่ฟาร์มตั้งให้เป็นจุดเด่นที่สุด ก็คือแปลง Irdori Field แปลงนี้ตั้งใจปลูกให้มีดอกไม้ทั้งหมด 7 สี 7 สายพันธุ์ เรียงกันเป็นแปลงยาวเปรียบเสมือนสีของสายรุ้งที่สวยงามตัดกับท้องฟ้าสีสดใสของหน้าร้อนเป็นอย่างดี




ทะเลสาบโทยะ (Lake Toya)
     ตั้งอยู่ระหว่างเส้นทางของฮาโกดาเตะและซัปโปโร ภายในเขตอุทยานแห่งชาติค็อทสึ-โทยะ (Shikotsu Toya National Park) บริเวณเป็นพื้นที่ที่เป็นทะเลสาบที่อยู่บนภูเขา ซึ่งเกิดจากการระเบิดตัวของภูเขาไฟเมื่อหลายแสนปีมาแล้ว ซึ่งทะเลสาบที่เกิดจากระเบิดครั้งนั้นได้แก่ ทะเลสาบชิค็อทสึ (Lake Shikotsu) ทะเลสาบคัททะระ (Lake Kattara) ทะเลสาบฮังเง็ตสึ (Lake Hangetsu) และทะเลสาบโทยะ ในบรรดาทะเลสาบที่เกิดขึ้นนั้น ทะเลสาบโทยะ ถือว่าเป็นทะเลสาบที่มีธรรมชาติที่สวยงามมากกว่าแห่งอื่นด้วยมีภูเขาไฟอยู่กลางทะเลสาบ รอบบริเวณทะเลสาบโทยะมีแหล่งอาบน้ำแร่ชั้นดีให้ได้แช่กันอีกด้วย จึงมีโรงแรมและรีสอร์ต์ กระจายโดยทั่ว ทำให้สะดวกสบายมากขึ้นสำหรับนักท่องเที่ยว




หุบเขานรก (Noboribetsu Jigokudani)
     หุบเขานรกจิโกขุดานิ เป็นบ่อโคลนเดือดตามธรรมชาติ อุดมไปด้วยแร่กำมะถันซึ่งเกิดจากความร้อนใต้พิภพ หากนักท่องเที่ยวเดินตามทางเดินจะสามารถเห็นควัดที่เกิดจากความร้อนพวยพุ่งขึ้นมาจากใต้ดินตลอดเวลา
หุบเขานรกจิโกคุดานิมีลักษณะเป็นเนินเขา มีทางเดินให้นักท่องเที่ยวได้ชมปรากฎการณ์ทางธรรมชาติตลอดข้างทาง หากเดินไปเรื่อยๆจะพบกับ "อุโอนุมะ" ซึ่งเป็นบ่อกำมะถันขนาดใหญ่ มีอุณหภูมิ 50 องศาเซลเซียส และยังมีนักท่องเที่ยวจำนวนมากมักแช่เท้าเพื่อเป็นการผ่อนคลายและเชื่อว่าช่วยในการรักษาโรคที่เกี่ยวกับเท้าได้เป็นอย่างดีอีกด้วย





อาหารน่าลอง

Genghis Khan
เจงกีสข่าน อาหารที่ได้รับความนิยมอย่างสูงของฮอกไกโด ที่เนื้อนุ่มชั้นดีและรสอร่อยแบบเฉพาะตัว
ที่จะทำให้ติดใจจนถอนตัวไม่ขึ้น
เนื้อแลมป์ (ลูกแกะ) และมัทเทิ่น (แกะโตตัวเมีย) ที่ย่างด้วยกะทะเหล็กที่ตรงกลางนูนขึ้นมาเป็นทรงโดม เป็นรสชาติที่ชาวฮอกไกโดคุ้นเคยเป็นอย่างดี เนื้อแกะเป็นวัตถุดิบที่ขาดไม่ได้อย่างหนึ่งเวลาที่รับประทาน
เนื้อย่างที่ฮอกไกโด ซึ่งโดยทั่วไปรับประทานโดยการทาไขมันบนกะทะร้อนแล้วย่างเนื้อแกะไปเรื่อยๆ บนถั่วงอกและหัวหอม เนื้อแกะส่วนใหญ่มี
3 แบบคือ เนื้อดิบ เนื้อหมักซอส เนื้อม้วนเป็นโรลนำไปแช่แข็งแล้วสไลต์เป็นแผ่นบางๆ จากการที่รัฐบาลเริ่มใช้ขนแกะในการทำยุทโธปกรณ์จึงเป็นจุดเริ่มต้นของเรื่องราว โดยได้รับอิทธิพลจากความนิยมในนํ้าซอสสูตรพิเศษของร้าน มัตสึโอะ เจงกีสข่านที่เปิดกิจการเมื่อปีโชวะที่ 31 จึงทำให้กลายเป็นอาหารพื้นเมืองที่เป็นที่รักของผู้คนในท้องถิ่น



Ishinari Nabe

     อิชิคะริ-นาเบะเป็นอาหารตามแบบฉบับของฮอกไกโดโดยใช้ปลาแซลมอนสดทั้งตัวตั้งแต่หัว จนถึงหาง ชื่อนี้มาจากแม่น้ำอิชิคะริ-กาวะซึ่งโด่งดังเรื่องการจับปลาแซลมอน ในแถบเมืองโอบิฮิโระจะเรียกอาหารประเภทนี้ว่าโทคะจิ-นาเบะ วิธีทำจะนำปลาแซลมอนชิ้นหนาไปต้มกับผัก เต้าหู้ และคอนยะกุ (หัวบุก) ในซุปสาหร่ายที่ปรุงรสด้วยมิโสะ จากนั้นเติมมันฝรั่งและกะหล่ำปลีที่ปลูกในฮอกไกโดลงไปเพื่อเพิ่มรสชาติให้กับอาหารเมนูนี้ คุณจึงได้ดื่มด่ำกับความอร่อยของฮอกไกโดทั้งจากทะเลและพื้นดิน อิชิคะริ-นาเบะมีต้นกำเนิดมาจากสตูว์แซลมอนและผักของชาวไอนุในช่วงศตวรรษที่ 17-18 และชาวญี่ปุ่นที่มาจากทางใต้ได้เพิ่มมิโสะเข้าไปในภายหลัง




แหล่งอ้างอิง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น